วันศุกร์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2555

เที่ยวฮ่องกงเดือนเมษาเต็มอิ่มกับ 4 เทศกาลวัฒนธรรม


เที่ยวฮ่องกงเดือนเมษาเต็มอิ่มกับ 4 เทศกาลวัฒนธรรม

เที่ยว ฮ่องกงเดือนเมษายนพบกับ 4 เทศกาลสำคัญสืบทอดวัฒนธรรม ได้แก่ งานฉลองวันเกิดเจ้าแม่ทินโห่ว เทศกาลวันคล้ายวันประสูติของพระพุทธเจ้า งานฉลองวันเกิดเทพทัมกุงและเทศกาลซาลาเปาบนเกาะเฉิ่งเจ้า



เริ่มด้วยงานฉลองวันเกิดเจ้าแม่ทินโห่ว (Birthday of Tin Hau) ในวันที่ 13 เมษายน เป็นการฉลองให้เทพแห่งท้องทะเลที่ชื่อว่าทินโห่วที่ชาวฮ่องกงเชื่อกันว่าสามารถพยากรณ์อากาศได้แม่นยำและคอยคุ้มครองให้ชาวประมงเดินเรือได้อย่างปลอดภัย ดัง นั้น ก่อนออกหาปลา ชาวประมงจึงมักจะมาสักการะที่วัดทินโห่วเพื่อขอพรให้สภาพภูมิอากาศเป็นใจ ตลอดรอดฝั่ง โดยปัจจุบัน มีวัดทินโห่วมากถึง 70 วัดกระจายตัวทั่วฮ่องกง เมื่อวันเกิดเจ้าแม่ทินโห่วเวียนมาถึง ชาวฮ่องกงจะทำการตกแต่งเรือประมงรวมทั้งเรือสำเภาโบราณ (Duk Ling) ด้วยธงสีต่างๆเพื่อแสดงความขอบคุณที่เจ้าแม่ทินโห่วช่วยคุ้มครอง จากนั้นจะล่องเรือ แห่วนในอ่าววิคตอเรีย ก่อนจะมุ่งหน้าไปยัง Joss House Bay ในไซกุง (Sai Kung) ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดทินโห่วที่เก่าแก่ที่สุด สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1266 เพื่อทำพิธีจุดธูปบูชา ท่ามกลางชาวฮ่องกงกว่า 50,000 คน ที่มารวมตัวกันที่วัดแห่งนี้เป็นประจำทุกปีเพื่อฉลองให้กับเจ้าแม่ทินโห่ว 


ต่อมาในวันที่ 28 เมษายน 2555 จะเป็นเทศกาลวันคล้ายวันประสูติของพระพุทธเจ้า (Birthday of Lord Buddha) นับเป็นเทศกาลที่มีความศักดิ์สิทธิ์และมีเอกลักษณ์อีกเทศกาลหนึ่งที่ถือ ปฏิบัติมายาวนานในฮ่องกง ชาวฮ่องกงจะทำการสรงน้ำพระที่วัดพุทธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอารามโป๋หลินบนเกาะลันเตา ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระใหญ่ พระพุทธรูปนั่งกลางแจ้งทำจากทองสัมฤทธิ์ที่สูงที่สุดในโลก พุทธศาสนิกชนจากทั่วโลกจะมารวมตัวกันที่นี่เพื่อสรงน้ำพระและชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์ นอกจากนั้น ก่อน และหลังวันคล้ายวันประสูติของพระพุทธเจ้า ผู้เข้าร่วมเทศกาลจะทานคุ้กกี้รสขม เพราะมีความเชื่อว่าหลังจากได้ทานอาหารรสขมเข้าไปแล้ว สิ่งดีๆจะตามมา นอกจากพิธีสรงน้ำพระ จะมีการแสดงกังฟูจากสำนักเส้าหลินและโชว์ศิลปะการแสดงเปลี่ยนหน้าด้วย ทั้งในวันเดียวกันก็ยังมีเทศกาลงานฉลองวันเกิดเทพทัมกุง (Birthday of Tam Kung) ซึ่งเทพทัมกุงเป็นเทพแห่งท้องทะเลเหมือนเจ้าแม่ทินโห่ว และได้รับการบูชาจากชาวประมงอยู่เสมอ 


ตามความเชื่อโบราณเล่าว่า ทัมกุง เกิดในสมัยราชวงศ์หยวน เมื่อยังเล็กมีความสามารถในการพยากรณ์อากาศได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยของชาวบ้านได้ตั้งแต่อายุ 12 ปี ตำนานยังเล่าว่า ทัมกุงเรียนรู้จนบรรลุและมีสติปัญญาแตกฉานตั้งแต่อายุยังน้อย รวมถึงยังคงความอ่อนเยาว์บนใบหน้าไว้ได้แม้ร่างกายจะล่วงเลยวัยจนอายุ 80 ปี แล้วก็ตาม


ในโอกาสวันเกิดของเทพทัมกุง ชาวฮ่องกงนิยมฉลองที่วัดทัมกุงใน Shau Kei Wan บนเกาะฮ่องกง เพราะเป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1905 แม้ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 2002 ก็ยังคงรูปแบบดั้งเดิมไว้ได้อย่างดี หินที่อยู่ด้านหน้าของวัดคือสัญลักษณ์แห่งเทพทัมกุง ภายในวัดมีระฆังเหล็กและแท่นหินที่บอกเล่าประวัติการก่อตั้งวัดแห่งนี้ นอกจากนั้นยังมีเรือสำเภาและเรือมังกรโบราณที่ทำจากไม้อายุเก่าแก่หลายร้อย ปีตั้งอยู่ด้วย


และในช่วงวันที่ 25-29 เมษายน เทศกาลซาลาเปาบนเกาะเฉิ่งเจ้า (Cheung Chau Bun Festival) โดยชื่อเทศกาลมีที่มาจากหอคอยสูงที่ทำจากไม้ไผ่ตั้งตระหง่านหน้าวัดปักไต้บน เกาะเฉิ่งเจ้า ซึ่งเป็นสถานที่หลักในการฉลองโดยการแข่งเก็บซาลาเปาภายในเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ยังมีขบวนแห่พาเหรดของเหล่าเทพเด็กอีกด้วย เทศกาลซาลาเปา ถือปฏิบัติมานานกว่า 100 ปีแล้วเนื่องจากสมัยก่อนเคยมีโรคระบาดคร่าชีวิตชาวบ้านจำนวนมาก จึงมีการสร้างแท่นบูชาหน้าวัดปักไต้


เพื่อวอนให้เทพเจ้าช่วยคุ้มครองและขับไล่ วิญญาณร้ายออกไป นอกจากนั้นชาวบ้านได้ทำการแห่รูปปั้นของเทพเจ้าตามตรอกซอยทั่วเกาะอีกด้วย หลังจากพิธีกรรมทั้งหมด โรคระบาดได้หายไปจากเกาะอย่างไม่น่าเชื่อ จึงทำให้ชาวบ้านบนเกาะเฉิ่งเจ้าจัดเทศกาลซาลาเปาขึ้นทุกปีเพื่อขอบคุณ เทพเจ้าที่ช่วยคุ้มครองและป้องภัย
ปัจจุบันการแห่ขบวนพาเหรดของเหล่าเทพเด็ก ดังกล่าวยังคงจัดขึ้นเป็น ประจำทุกปี โดยเด็กๆจะแต่งกายเลียนแบบเทพเจ้าในตำนานรวมถึงคนมีชื่อเสียง พร้อมนั่งนิ่งๆ ในขณะที่แห่ไปรอบเมือง มองดูแล้วราวกับว่าลอยอยู่บนอากาศได้จริง ทำให้นักท่องเที่ยวรวมถึงชาวบ้านอดยิ้มไปกับความน่ารักและไร้เดียงสาของ เด็กๆอย่างเสียมิได้
ในแต่ละขบวนจะประกอบด้วยเด็ก 2 คน นั่งประจำตำแหน่งที่ลดหล่นกัน เด็กที่มาร่วมขบวนพาเหรดมีอายุระหว่าง 5-6 ขวบและหนักไม่เกิน 18 กิโลกรัม สำคัญที่สุดคือต้องไม่กลัวความสูงและอดทน เพราะเด็กต้องแต่งกายมิดชิด รัดกุม จึงอาจทำให้ร้อนได้ง่าย ระหว่างจุดเชื่อมต่อของเด็กทั้งสองจะประดับด้วยสัญลักษณ์
อธิบายความเกี่ยวข้องของเทพเจ้าทั้งคู่ ในแต่ละปี ชาวบ้านมักจะเคลื่อนขบวนแห่ไปตามตรอกและซอยต่างๆบนเกาะเฉิ่งเจ้าโดยการลาก แต่บางครั้งก็อาจใช้วิธีแบกขึ้นไหล่ได้เช่นกัน


ส่วนบริเวณหน้าวัดปักไต้ซึ่งเป็นวัดที่เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวบ้านบนเกาะ จะเป็นสถานที่จัดแข่งขันเก็บซาลาเปาบนหอคอยที่ทำจากไม้ไผ่ และปกคลุมด้วยซาลาเปาสีขาวนวลกว่า 9,000 ลูก รอคอยผู้กล้ามาโกยเก็บท้าความสูงกว่า 14 เมตร ชาวบ้านบนเกาะเฉิ่งเจ้าเชื่อกันว่าซาลาเปาคือสัญลักษณ์แห่งความโชคดีและสุขภาพที่แข็งแรง จึงมักให้คนในครอบครัวเข้าร่วมการแข่งขันเพื่อความเป็นสิริมงคลด้วยเวลาแข่ง ขันที่มีจำกัดเพียง 3 นาที ผู้เข้าแข่งขันจึงมักปีนขึ้นไปบริเวณยอดหอคอยก่อนเพื่อแย่งกันเก็บซาลาเปา ที่มีคะแนนสูงสุดในบริเวณนั้น ใครมีคะแนนรวมมากที่สุดจะคว้าตำแหน่ง King or Queen of the Buns ไปครองทันที


ในช่วงเทศกาลนี้เอง ชาวบ้านบนเกาะเฉิ่งเจ้าจะหันมาทานมังสวิรัติ ดังนั้นซาลาเปานำโชค หรือ Lucky Bun จึงทำมาจากแป้ง น้ำตาลและน้ำ และมีเพียง 3 รสชาติให้เลือกลอง นั่นคือไส้งา ลูกบัวและถั่วแดง ปราศจากไส้ที่ทำจากเนื้อสัตว์ รวมถึงส่วนประกอบอื่นๆ เช่น น้ำมันหรือเนย ซาลาเปานำโชคลูกกลมที่ถูกปั๊มด้วยตัวอักษรจีนคำว่า “สันติสุข” เหล่านี้จะถูกนำมาแจกจ่ายให้กับผู้เข้าร่วมงานและนักท่องเที่ยวหลังสิ้นสุดงานเทศกาล
เทศกาลซาลาเปาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมประจำชาติของจีนลำดับที่สาม ในปี 2554 ที่ผ่านมา โดยองค์การยูเนสโก นอก จากนี้นิตยสารออนไลน์ของอเมริกาอย่าง Time.com ยังมอบตำแหน่งหนึ่งในสิบเทศกาลท้องถิ่นสุดแปลกให้กับเทศกาลซาลาเปาบนเกาะ เฉิ่งเจ้าอีกด้วย 


เทศกาลฉลองสีสันทางวัฒนธรรมของฮ่องกงเป็น เครื่องพิสูจน์ได้ดีถึงการหลอม รวมกันอย่างลงตัวระหว่างความก้าวล้ำนำสมัยของมหานครระดับโลกและประเพณีดั้ง เดิมที่ยึดปฏิบัติมานับร้อยปี ฮ่องกงอวดสถานะความเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การลงทุนหรือโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างภาคภูมิและในขณะเดียวกันก็แสดงความโดด เด่นทางด้านสีสันทางวัฒนธรรมได้อย่างไม่เคอะเขิน ฮ่องกงคือหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการพักผ่อนอย่างมีคุณค่าในเดือน เมษายนนี้

วันพฤหัสบดีที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2555

เจมส์บอนด์ ภาค 23 Skyfall พลิกรหัสพิฆาตพยัคฆ์ร้าย

ภาพยนตร์ยอดสายลับ พยัคฆ์ร้าย 007 หรือ เจมส์ บอนด์ เข้มข้นขึ้นทุกภาคทุกตอน ล่าสุดมีข่าวแจ้งออกมาว่าภาพยนต์เจมส์บอนด์ ภาค 23 Skyfall พลิกรหัสพิฆาตพยัคฆ์ร้าย จะเปิดฉายรอบปฐมทัศน์โลกวันที่ 26 ตุลาคม ในอังกฤษ และจะเข้าฉายในบ้านเราวันที่ 8 พฤศจิกายน 2012 นี้
หากคุณเป็นแฟนหนังทริลเลอร์แอ็คชั่นอย่างสายหลับสุดหล่ออย่างเจมส์บอนด์ แล้วล่ะก็ ขอบอกว่าห้ามพลาดเด็ดขาด แต่ก่อนที่คุณจะไปอิ่มเอมกับภาพยนตร์สุดมัน เราขอฉกตัวสาวสวยสุดเซ็กซี่ของแดเนี่ยล เคร็ก ที่รับบทเจมส์ บอนด์ติดต่อกันถึง 3 ภาค มาให้คุณๆ ได้ยลโฉมกัน

5 สาวบอนด์สุดเอ๊กซ์ซ์ซ์...ของ แดเนี่ยล เคร็ก (Daniel Craig)


Naomie Harris (นาโอมิ แฮรร์ริส)
เกิด : 6 กันยายน 1976
อายุ : 36 ปี
สัดส่วน : 34-26-35
สาวบอนด์ภาคล่าสุด นาโอมิ แฮร์ริส รับบท อีฟ แฟนสาวของเจมส์ บอนด์ ภาค 23 Skyfall พลิกรหัสพิฆาตพยัคฆ์ร้าย ถึงแม้เธอจะเป็นสาวผิวสี แต่ดีกรีนักแสดงไม่แพ้ใคร นาโอมิ แฮรร์รีส เข้าสู่วงการโทรทัศน์และภาพยนตร์ด้วยวัยเพียง 9 ขวบ เธอฝึกฝนและเรียนรู้การแสดง จนเริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักจากการรับบทนักแสดงนำในหนังทริลเลอร์เรื่อง 28 Days Later เมื่อปี 2002 แต่หลายๆ คนอาจจะจำภาพเธอจากหนังเรื่อง Pirates of the Caribbean ในบทเทีย ดัลม่า ราชินียิปซี และแน่นอนด้วยความสามารถที่เธอสะสมและโลดแล่นในวงการภาพยนตร์มานานกว่า 10 ปี ทำให้นาโอมิ แฮรร์ริส ได้รับเลือกเป็นสาวบอนด์ในที่สุด



Berenice Marlohe (เบเรนีซ มาร์โลห์)
เกิด : 19 พฤษภาคม 1979
อายุ : 33 ปี
สัดส่วน : 36.5-25-36.5
เบเรนีซ มาร์โลห์ รับบท เซเวอรีน สาวบอนด์อีกหนึ่งคนในภาคนี้ แค่เห็นรูปร่างหน้าตาของเบเรนีซก็การันตีได้เลยว่าหนุ่มบอนด์นักรักของเรา ต้องหลงเสน่ห์เซเวอรีนอย่างแน่นอน เบเรนีซ มาร์โลห์ เป็นนักแสดงสาวชาวฝรั่งเศสที่มีผลงานเริ่มแรกจากละครซีรีย์หลายต่อหลาย เรื่อง เช่น Équipe médicale d'urgence, R.I.S. Police scientifique, Père et Maire(Father and Mayor), Femmes de loi(Women of the Law)และมีผลงานทางจอเงินจากหนังสั้นเรื่อง La discordance ล่าสุดก่อนที่เบเรนีซ จะมารับบทสาวบอนด์เธอฝากผลงานไว้ในหนังฟอร์มยักษ์เรื่อง L'Art de Séduire เมื่อปีก่อน



Tonia Sotiropoulou (โทเนีย โซทีโรโพลู)
เกิด : ปี 1987
อายุ : 25 ปี
สัดส่วน : ไม่เปิดเผยข้อมูล
สาวบอนด์คนล่าสุด โทเนีย โซทีโรโพลู นางแบบนักแสดงสาวชาวกรีซ ที่เคยซดน้ำใบบัวบกแก้ช้ำมาแล้วตอนมาแคสบท เซเวอรีน ผู้หญิงของบอนด์อีกคน แต่คนจะดังอะไรก็ฉุดไม่อยู่ โทเนีย โซทีโรโพลู ได้รับโอกาสอีกครั้ง ในบทสาวบอนด์คนล่าสุด โทเนียโด่งดังจากผลงานละครซีรีย์ True Love และ Golden Girls หลังจากนั้นเธอย้ายมาลอนดอนเพื่อทำงานกับผู้กำกับหนังอย่าง Martha Fiennes และแน่นอนด้วยความสวยและมากความสามารถของสาวคนนี้ทำให้เธอถูกเลือกให้รับบทเอเลนน่า ในหนังสยองขวัญเรื่อง Berberian Sound Studio



Olga Kurylenko (โอลกา คูริลเลนโก)
เกิด : 14 พฤศจิกายน 1979
อายุ : 33 ปี
สัดส่วน : 34.5-23.5-35
นักแสดงและนางแบบสาวชาวยูเครน โอลกา คูริลเลนโก รับบทหญิงสาวของบอนด์เมื่อปี 2008 ในบทบาทของ คามิลล์ ในภาพยนตร์สายลับเจมส์ บอนด์ 007 ตอน Quantum of Solace หรือ “พยัคฆ์ร้ายทวงแค้นระห่ำโลก” โอลกา คูริลเลนโก สาวยูเครนที่เข้าสู่วงการแคทวอล์กด้วยวัยเพียง 13 ปี แน่นอนด้วยรูปร่างและหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้เธอรุ่งโรจน์ในเมืองแฟชั่น อย่างปารีสด้วยการถ่ายแบบให้กับนิตยสารดังหลายเล่มอย่าง Glamour, Elle, Madame Figaro, Marie Claire และ Vogue นอกจากนี้เธอยังโลดแล่นอยู่ในจอเงินถึงสิบกว่าปีจากภาพยนตร์หลายเรื่องเช่น Paris, je t'aime, Le serpent, Hit Man, Tyranny เป็นต้น และในปีหน้าเธอจะมีผลงานที่ร่วมแสดงกับ ทอม ครูซ ให้เราได้ชมกัน



Eva Green (อีวา กรีน)
เกิด : 5 กรกฎาคม 1980
อายุ : 32 ปี
สัดส่วน : 36-24-35
เอวา กาแอล เกรน หรือ อีวา กรีน นักแสดงและนางแบบสาวแดนน้ำหอม ที่มารับบทสาวบอนด์ ในเจมส์ บอนด์ 007 ตอน Casino Royale หรือ “พยัคฆ์ร้ายเดิมพันระห่ำโลก” ที่ทำให้เธอได้รับรางวัลบาฟต้า ในสาขานักแสดงนำหน้าใหม่ อีวา กรีน เดินตามรอยเท้า มาเลน โจแบ ผู้เป็นมารดาเข้าสู่วงการโดยเข้าศึกษาที่โรงเรียนฝึกการแสดง เซนต์ พอล ในปารีสเป็นเวลา 3 ปี เธอเปิดตัวในฐานะนักแสดงภาพยนตร์ชุด The Dreamers ในปี 2003 และประสบความสำเร็จอย่างมากจากภาพยตร์เรื่อง Kingdom of Heaven ล่าสุดเธอมีรับบทบาทแม่มดใจร้ายในหนังเรื่อง Dark Shadows ที่กำลังจะเข้าฉายในบ้านเราวันที่ 10 พ.ค. นี้


ผลงานล่าสุดเจ้าสาวคนสวย “จอนจีฮยอน” Read more: The Thieves ผลงานล่าสุดเจ้าสาวคนสวย “จอนจีฮยอน”


The Thieves ผลงานล่าสุดเจ้าสาวคนสวย “จอนจีฮยอน” (Jun Ji-Hyun)

เจ้าสาวหมาด ๆ "จอนจีฮยอน" Jun Ji-Hyun (전지현) กำลัง จะกลับมามีผลงานใหม่กับหนังเกาหลีใต้อีกครั้ง หลังใช้เวลาช่วงหลายปีที่ผ่านมาไปกับการทำงานในต่างประเทศ ด้วยผลงานแนวหักเหลี่ยมเฉือนคมของเหล่าจารชน The Thieves ที่มีนักแสดงร่วมประชันบทบาทมากมาย 


The Thieves เป็นหนังแอ็กชั่นทริลเลอร์ที่เล่าเรื่องของ 5 สุดยอดนักโจรกรรมแห่งเกาหลีใต้ที่ได้รับคำสั่งจากอดีตเจ้านายให้รับงานขโมย โคตรเพชรที่มีชื่อว่า Tear of the Sun ซึ่งจะทำให้พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสุดยอดนักโจรกรรมแห่งฮ่องกง กับฉากหลังบ่อนคาสิโนในมาเก๊า เป็นงานแนวแอ็กชั่นจารกรรม ที่ตัวอย่างอาจทำให้หลาย ๆ คนนึกไปถึงงานประเภทเดียวกันจากฮอลลีวูดอย่าง Ocean Eleven ขึ้นมาได้
ผลงานเรื่องนี้เป็นฝีมือของผู้กำกับ ชเวดงฮุน ที่แจ้งเกิดกับหนังตลก The Big Swindle และมีงานฮิตมาแล้วหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น The War Of Flower และ JEON WOO CHI : The Taoist Wizard
สำหรับแฟนหนังเกาหลีนี่ยังเป็นการโคจรกลับมาพบกันของ คู่ขวัญในอดีต จากหนังโรแมนติกชื่อดัง Il Mare อย่าง จอนจีฮยอน และ อีจองแจ ที่จะได้กลับมาร่วมงานกันเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี นอกจากนั้นยังร่วมด้วยนักแสดงชื่อดังมากมาย อาทิ คิมยุนซอก จาก The Yellow Sea, โอดัลซู จาก Detective K และ คิมเฮซุก จาก Thirst รวมถึงสาวเซ็กซีวัย 42 ปี คิมเฮซู และดาราเจ้าบทบาทชาวฮ่องกง เยิ่นต๋ะหัว ด้วย
โดยหนังมีกำหนดเข้าฉายที่เกาหลีใต้ในช่วงเดือน ก.ค. นี้


30 วิธีสร้างสุขสันต์..ฉันท์สามี-ภรรยา

30 วิธีสร้างสุขสันต์..ฉันท์สามี-ภรรยา

ปฏิเสธ ไม่ได้ว่า การจะมีชีวิตคู่ที่ไปกันได้ตลอดรอดฝั่งนั้น นอกจากความรักแล้วยังต้องมีองค์ประกอบอื่น ๆ อีกมากมาย วันนี้เราได้รวบรวม 30 วิธีสร้างสุขสันต์ฉันท์สามีภรรยามาฝากให้อ่านกัน เผื่อว่าจะเป็นวัสดุชั้นดีให้ใครหลาย ๆ คนนำไปเติมเต็มชีวิตรักในวันนี้ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ไปติดตามกันเลยครับ


1. สิ่งสำคัญที่ผู้ครองเรือนต้องสร้างให้เกิดขึ้นในจิตใจ คือ ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะด้านความประพฤติ และความห่วงใยเอาใจใส่ต่อกัน
2. ถ้าคิดแต่เรื่องดี ๆ จิตใจก็จะเบิกบานเป็นสุข ร่างกายก็กระฉับกระเฉง มีชีวิตชีวา จะทำอะไรก็ทำอย่างมั่นใจ ทำด้วยความสนุกเพลิดเพลิน ทำให้สิ่งที่ตั้งใจทำได้ผลลออกมาดี
3. ชีวิตคู่ที่หวานชื่น และสุขสมนั้น ต้องเข้าใจกัน ไว้ใจกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน เคารพนับถือซึ่งกันและกัน และให้อภัยกัน
4. ไม่นอกใจสามี หรือนอกใจภรรยา ข้อนี้ก็เช่นเดียวภาระหน้าที่ของสามีที่จะไม่ประพฤตินอกใจภรรยา ภรรยาก็เช่นกัน ไม่ควรนอกใจสามีไม่ว่ากรณีใด ๆ ตราบเท่าที่ยังรักกันอยู่
5. อย่าเปลี่ยนเขา แต่พยายามเปลี่ยนที่ตัวคุณเอง อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาทำอะไรให้คุณไม่ชอบใจ ชนิดรับกันไม่ได้จริง ๆ ลองบอกสิ่งนั้นให้เขาฟัง แต่อย่าใช้น้ำเสียงโมโหโกรธาหรือตั้งท่าจะราวี
6. หากสามีไปมีผู้หญิงอื่น ถ้าตัดสินใจว่าจะอยู่ด้วยกันก็ต้องอยู่อย่างมีความสุข โดยเริ่มต้นจากการให้สามีทำสิ่งนี้เพื่อล้างผิด (ถ้าทำได้) เช่น ให้ไปปฏิบัติธรรมสัก 3-10 วัน หลังจากนั้นควรมีกิจกรรมร่วมกัน เช่น รับประทานอาหาร ออกกำลังกาย จิตใจจะได้ค่อย ๆ ปรับตัว และให้อภัยกันในที่สุด
7. ก่อนที่จะมีลูกนั้น ควรพิจารณาถึงความพร้อมให้ดีเสียก่อน ซึ่งการจะมีลูก จะมีกี่คนก็ตาม ควรมีด้วยความภูมิใจ ความพร้อม ความรัก จึงจะสร้างความสุขให้แก่ครอบครัวได้
8. หลีกเลี่ยงการใช้คำหยาบ ถึงแม้คนเราจะโกรธกัน ทะเลาะกัน ก็ไม่ควร หรือเลี่ยงให้มากที่สุด เพราะจะทำให้ภาพพจน์ตกต่ำ และยังขาดความเคารพนับถือซึ่งกันและกัน ส่วนลูก ๆ ก็จะเสียใจที่ได้ยินคำเหล่านั้นจากปากคุณพ่อคุณแม่
9. เมื่อแต่งงานกันแล้ว ไม่ควรนำความผิดพลาดในอดีตมาพูดกันอีก เราไม่ฟื้นฝอยหาตะเข็บ แต่ต้องให้อภัยกันได้ ซึ่งอดีตก็คือเรื่องของอดีต ไม่ควรนำมาเกี่ยวโยงจนทำให้ชีวิตรักในปัจจุบันต้องสั่นคลอน
10. อย่าโกรธพร้อมกัน สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ต้องสอนกัน ถ้าคนหนึ่งเป็นไฟ อีกคนหนึ่งต้องเป็นน้ำ พยายามอย่าเป็นไฟด้วยกันทั้งคู่ เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ขอให้ใช้ความรักพูดคุยกัน นึกถึงแต่เรื่องราว และความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กัน (เพราะบางครั้งเหตุผลก็แก้ปัญหาไม่ได้)
11. สามีจะต้องไม่เริ่มต้นใช้ความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นความรุนแรงด้วยวาจา หรือการกระทำก็ตาม เช่น การซ้อม การใช้เข่า ศอก หมัด เป็นเครื่องแก้ปัญหา เพราะความรุนแรงอาจก่อให้เกิดการทำร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะต่อหน้าลูก จะทำให้เป็นบาดแผลในใจลูก ส่งผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ตามมา
12. ไม่ควรตะโกนใส่กัน (ยกเว้นบ้านไฟไหม้) ถ้ามีปัญหากันก็พูดกันดี ๆ อย่าตะโกน หรือท้าว่าจะหย่ากัน
13. จะวิพากษ์วิจารณ์กันก็ต้องระวัง และทำอย่างทะนุถนอมน้ำใจกัน
14. ถ้าทำผิด อย่าลังเลที่จะขออภัย แต่ควรแสดงความรู้สึกเสียใจ และกล่าวคำว่า "ขอโทษ" เมื่อกระทำผิด อย่าเป็นประเภทที่เรียกว่า "ปากแข็ง" นั่นไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมาหรอกครับ แถมยังจะสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นตามมาอีกด้วย
15. ไม่ควรเข้านอนโดยไม่ทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ถ้ามีเรื่องที่บาดหมางกัน ควรพูดคุยกันให้จบ


16. ยามทะเลาะกัน คนที่ผิดมากที่สุดคือคนที่พูดมากที่สุด ถ้าอยากเป็นคนผิดน้อยเมื่อทะเลาะกัน พยายามนิ่งให้มากที่สุดจะดีกว่า
17. แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนไป ควรมอบความรัก ความอบอุ่น ความมั่นคงอย่างจริงใจต่อเขาและเธออย่างสม่ำเสมอ เช่น ยังคงแคร์ความรู้สึกของกันและกันไม่เคยเปลี่ยน ยังเคยห่วงใยดูแลกันและกันไม่เคยเปลี่ยน เป็นต้น
18. เรียนรู้จากความล้มเหลวของตัวเอง แทนที่จะหาข้อแก้ตัวด้วยการหาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง หรือโยนความผิดให้แก่คนอื่น
19. เลี้ยงดูอุปการะ หรือดูแลกันและกันในยามเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ทอดทิ้งกัน แต่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน
20. เป็นคนที่คอยปลอบอกปลอบใจกันและกันในยามที่ผิดหวัง พร้อมกับให้กำลังใจกันเพื่อให้ลุกขึ้นมาต่อสู้ และฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ในชีวิตต่อไป
21. สามี และภรรยาทุกคนต้องการเป็นคนดีของครอบครัว และทุกคนก็มีศักยภาพที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ไม่ดีในตัวเองให้เป็นสิ่งที่ดีได้
22. อย่าให้คุณค่าของภรรยาอยู่ที่อายุหรือความงาม สามีควรจะเห็นว่า ความงามของภรรยาเป็นเพียง "โบนัส" ไม่ใช่องค์ประกอบที่สำคัญที่สุด ขณะที่ภรรยาควรตระหนักว่า ตัวเองก็มีคุณค่า โดยไม่ขึ้นกับอายุหรือความงาม
23. อยากได้อะไรควรนึกถึงคู่ชีวิตของเราก่อน
24. สามีจะหลงภรรยาวัยทองมากกว่าเด็กสาว ๆ ก็เพราะความพร้อมทางกายและจิตใจ ความอ่อนหวาน คือ รู้ใจทุกอย่าง มองตาก็รู้ใจสมกับวัยทอง
25. อดออม การที่คนสองคนมาใช้ชีวิตคู่อยู่ด้วยกันนั้น เงินทองย่อมเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตร่วมกัน หากทั้งสองรู้จักอดออมถนอมทรัพย์สินที่หามาได้ด้วยความยากลำบากร่วมกัน และพิจารณาการใช้อย่างถูกต้องแล้ว นาวารักของทั้งสองก็จะสามารถฝ่ามรสุมต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี
26. พร้อมใจกันเลิกกินเหล้า เลิกสูบบุหรี่ เลิกเล่นหวยและการพนัน รวมทั้งไม่สร้างหนี้สร้างสินให้กับครอบครัว
27. ให้ความเคารพนบน้อมบุพการีของกันและกัน
28. เรื่องที่ทะเลาะกันไปตั้งหลายเดือนก่อน ไม่ต้องสะสมแต้มยกมาทะเลาะกันอีกในคราวหลัง
29. ถ้ามีปัญหาในชีวิตคู่ ควรช่วยกันแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาใหญ่ ๆ อย่าตัดสินใจคนเดียว
30. การรู้จักให้อภัยกัน ไม่ถือโทษโกรธกันแค่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นคุณธรรมที่จะช่วยค้ำจุนชีวิตคู่ให้ประสบความสุขความเจริญ
หากในบ้านที่มวลของความรักพัดผ่าน ไหลเวียนถ่ายเทดี สมาชิกในบ้านก็จะมีสุขภาพดีทั้งกาย และใจ ถึงแม้อากาศนอกบ้านจะร้อนสักเพียงใด แต่เชื่อเถอะครับว่า เราจะไม่ร้อนใจ เพราะบรรยากาศในบ้านเต็มไปด้วยความร่มเย็นเป็นสุขนั่นเอง


 

ไมเกรน เลี่ยงได้ไม่ยาก


ไมเกรน เลี่ยงได้ไม่ยาก

ก่อนที่จะพึ่งยาแก้ปวดไมเกรนครั้ง ต่อไป ลองมาดูว่ามีวิธีไหนที่ช่วยบรรเทา หรือหยุดอาการปวดหัวให้หมดไปได้ อายุรแพทย์แนะนำวิธีหยุด/หลีกเลี่ยงอาการ ปวดศีรษะไมเกรน โดยไม่ต้องพึ่งยา หนึ่งในเรื่องทรมานที่พบมากในหญิงวัยทำงาน


ก่อนที่จะพึ่งยาแก้ปวดไมเกรนครั้งต่อไป ลองมาดูว่ามีวิธีไหนที่ช่วยบรรเทา หรือหยุดอาการปวดหัวให้หมดไปได้ จากคำแนะนำของ เรืออากาศโท นพ.กีรติกร ว่องไววาณิชย์ อายุรแพทย์จากคลินิกโรคปวดศีรษะ ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลกรุงเทพ
 
เพราะการกินยาไม่ใช่คำตอบสุดท้าย บางคนกินยาเข้าไปแล้วอาการปวดก็ยังไม่หาย แถมยังสะสม ส่งผลกระทบต่อตับและไตตามมาในภายหลัง หรือในคนไข้บางคนที่ไม่สามารถกินยาแก้ปวดไมเกรน เนื่องจากมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ยาไมเกรนจึงไม่ใช่ทางออกเสมอไป
 
แล้วถ้าไมเกรนมาเยือนครั้งต่อไป จะต้องทำอย่างไร คุณหมอ บอกว่า อันดับแรกจะต้องหาสาเหตุของอาการปวด โดยสังเกตดูว่าทุกครั้งที่มีอาการปวดหัว เริ่มต้นจากอะไร เพราะแต่ละคนมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นรอบตัวแตกต่างกัน
 
"บางคนอาการป่วยมาพร้อมกับความเครียด และพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ บางคนเริ่มปวดหัวหลังการเผชิญกับแสงแดดจ้าในเวลากลางวัน หรืออากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บางคนรู้สึกปวดหัวทุกครั้งที่เข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดัง หรือได้กลิ่นฉุนจากน้ำหอม กลิ่นควันธูป เหล่านี้คือปัจจัยยอดฮิตที่ทำให้อาการปวดกำเริบ และเป็นปัญหาใหญ่ของคนไข้ไมเกรนในปัจจุบัน"คุณหมอกล่าว
 
นอกจากปัจจัยที่ว่ามาแล้ว อาหารบางประเภทยังมีส่วนเสริมทำให้ไมเกรนกำเริบ เช่น อาหารแปรรูปอย่างไส้กรอกรมควัน ที่มีส่วนผสมของสารกันบูด อาหารประเภทหมักดอง ผงชูรส น้ำตาลเทียม ผลไม้บางชนิด เช่น กล้วย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไวน์แดง เบียร์ เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาเฟอีน กาแฟ ชา โกโก้ น้ำอัดลม ตลอดจนชีสและผงชูรส
 
หรือผู้หญิงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงมีรอบเดือน ทำให้สมองมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากขึ้น และการอดอาหารก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นไมเกรนได้เช่นกัน เมื่อค้นหาสาเหตุเจอแล้ว สิ่งที่ควรทำคือหลีกเลี่ยง หรือหยุดปัจจัยเสี่ยงเหล่านั้นให้ได้
 
คุณหมอย้ำว่า การที่คนไข้เดินทางมาพบแพทย์ จะช่วยให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เหมาะสมกับอาการที่เป็น แม้กระทั่งข้อปฏิบัติในการทานยาไมเกรนที่หลายคนอาจยังไม่รู้ เช่น เมื่อรู้สึกปวดแล้วให้รีบกินทันทีเพื่อระงับอาการ แทนที่จะทนให้อาการปวดรุนแรงก่อนถึงจะกินยา ซึ่งเป็นผลเสีย เพราะเมื่อร่างกายเข้าใจว่ายอมรับกับอาการปวดได้ ก็จะเริ่มปรับระดับความรุนแรงเพิ่มขึ้น
 
"การค้นหาสาเหตุให้พบจะนำมาสู่การรักษาอย่างถูกวิธี เพราะหลายครั้งที่แพทย์ตรวจพบว่า สาเหตุของไมเกรนไม่ได้มากจากปัจจัยกระตุ้นจากภายนอก แต่เป็นอาการปวดที่มาจากปัจจัยภายใน เช่น ปวดไมเกรนจากโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ซึ่งต่อให้ทานยาเป็นประจำก็ใช่ว่าจะหาย"คุณหมอกล่าว
 
นอกจากการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของไมเกรนด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ ปัจจุบันมีการนำเทคนิคใหม่ในการวินิจฉัยและรักษาอาการปวดศีรษะอย่างได้ผล เช่น ไบโอฟีดแบ็ค (Biofeedback) เพื่อวัดการทำงานของร่างกายขณะปวดหัว เปรียบเทียบกับในยามที่ร่างกายปกติ ไม่ว่าจะเป็น อัตราการเต้นของหัวใจ กล้ามเนื้อ ความดัน อุณหภูมิ ใช้เป็นเกณฑ์ในการฝึกร่างกายให้ผ่อนคลาย กำหนดลมหายใจ ลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ เพื่อให้อาการปวดค่อยๆ ทุเลา และทานวิตามินเสริม เช่น วิตามินบี 2 เกลือแร่ และโคเอนไซม์คิว10
 
ส่วนกรณีอาการปวดจากหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จากความผิดปกติของโครงสร้างร่างกาย ท่านั่ง ยืน เดิน หรือนอนที่ไม่ถูกต้อง ทำให้กล้ามเนื้อทำงานไม่สมดุล และเกิดการฉีกขาดได้นั้น การทำกายภาพบำบัดที่มีส่วนช่วยแก้อาการปวดหัวได้เช่นกัน
 
เทคนิคสุดท้ายที่จะหลีกเลี่ยงไมเกรนคือ การแพทย์ทางเลือกอย่าง การฝังเข็มบริเวณหน้าผาก ขมับ ท้ายทอย กลางกระหม่อม และกระบอกตา จะช่วยให้เส้นลมปราณที่ติดขัด ไหลเวียนได้สะดวก ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อบริเวณที่มีปัญหาให้กลับมาทำงานได้ดีขึ้น ผลจากฝังเข็ม 10 ครั้ง ใน 1 เดือน สามารถบรรเทาอาการปวดในช่วง 6 เดือนถึง 1 ปี

ยืนยัน “เมแกน ฟอกซ์” (Megan Fox) ป่องแล้ว

ยืนยัน “เมแกน ฟอกซ์” (Megan Fox) ป่องแล้ว

ยืนยัน “เมแกน ฟอกซ์” (Megan Fox) ป่องแล้ว

มีคำยืนยันจากสำนักข่าวชื่อดัง ว่า ดาราสาวเซ็กซี “เมแกน ฟอกซ์” (Megan Fox) ได้ตั้งท้องลูกคนแรกแล้ว หลังก่อนนี้เธอเคยเปรยว่ารักการเป็นแม่ และอยากจะมีลูกสัก 2-3 คน

nice pics